ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักคืออะไร ใช้ได้ผลจริงไหม?

คุณคือใครอีกคนที่กำลังมีปัญหานอนไม่หลับอยู่หรือเปล่า? การทานยานอนหลับเป็นประจำนั้นไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ และการดื่มชาหรือนมก่อนนอนก็อาจไม่ใช่ทางออกที่ได้ผลสำหรับทุกคน

วันนี้เราเลยมีนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับมาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกัน นวัตกรรมนั้นก็คือผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก (Weighted blanket) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ผ้าห่มแรงโน้มถ่วง ( Gravity blanket ) นั่นเองโดย

เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงเบื้องหลังงานวิจัยและช่วยคุณหาคำตอบว่า เจ้าผ้าห่มหนักๆนี้จะใช่ทางออกสำหรับคุณไหม? ข้อดีและข้อเสียเป็นยังไง? ตลอดจนวิธีการเลือกซื้อผ้าห่มถ่วงน้ำหนักที่จะทำให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด

เรียกได้ว่าอ่านครบจบในบทความเดียว ถ้าพร้อมแล้วเรามาทำความรู้จักกันเลย

01

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก (Weighted blanket) คืออะไร?

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก (Weighted blanket) คือนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการบำบัดผู้มีภาวะนอนไม่หลับหรือมีอาการวิตกกังวลโดยเฉพาะ โดยลักษณะพิเศษของผ้าห่มชนิดนี้ก็คือน้ำหนักที่มากกว่าผ้าห่มปกติทั่วไป เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกราวกับว่ากำลังถูกโอบกอด และช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้นจากหลักการที่เรียกว่า Deep pressure simulation (DPS)

02

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักทำมาจากอะไร?

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก (Weighted blanket) ทำมาจากการบรรจุ Filler ต่างๆไม่ว่าจะเป็น glassbeads, plastic หรือแม้กระทั่งเม็ดgrain ลงไปในชั้นของผ้าห่ม เพื่อใช้เป็นตัวถ่วงน้ำหนักให้สามารถห่อหุ้มร่างกายได้มากเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีน้ำหนักได้ตั้งแต่ 1-10 กิโลกรัม ตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน

03

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักมีประโยชน์อย่างไร?

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักช่วยให้เรานอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้หลักการจำลองความรู้สึกดีๆที่เราได้รับจากการกอด หรือที่เรียกว่า Deep pressure simulation (DPS) ซึ่งสามารถกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท Parasympathetic ที่ทำให้เรารู้สึกสงบ ผ่อนคลาย เตรียมความพร้อมให้ร่างกายเข้าสู่การนอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

สำหรับบางคนแล้ว การได้อยู่ในอ้อมกอดของใครสักคนหรือผ้านวมๆนุ่มๆหนา เป็นเหมือนเกราะป้องกันชั้นดีต่อสิ่งเร้ารอบข้างที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยและสบายใจจนอาจทำให้เราผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

นอกจากการกระตุ้นระบบ Parasympatheticแล้ว หลักการ DPS ยังมีส่วนช่วยต่อการเพิ่มขึ้นของ Serotonin อีกด้วย ซึ่งฮอร์โมนที่ว่านี้คือฮอร์โมนที่ช่วยให้เราคลายกังวล ลดความกระวนกระวายใจจากการฟุ่งซ่านก่อนนอนได้ ให้เรานอนหลับได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

เป็นที่แน่นอนว่าการใช้ตัวช่วยที่เป็นสารเคมี อย่างเช่นการทานยานอนหลับอย่างเป็นประจำนั้นย่อมไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง การใช้ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในระยะยาว

ถือเป็นประโยชน์ข้อสำคัญที่สุดของผ้าห่มถ่วงน้ำหนักเลยก็ว่าได้ เพราะหากเรามีการพักผ่อนที่เพียงพอ คุณภาพชีวิตของเราก็จะดีขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านอารมณ์ที่สดใส สมาธิที่มากขึ้น มีพลังพร้อมที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา

04

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักเหมาะกับใครบ้าง?

ถึงแม้ว่าเดิมทีผ้าห่มถ่วงน้ำหนักจะถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ แต่ปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยผ้าห่มถ่วงน้ำหนักเหมาะสำหรับทั้งคนที่ต้องการรักษาอาการนอนไม่หลับด้วยตนเองที่บ้าน และผู้ที่ชื่นชอบผ้าห่มที่ให้ความรู้สึกห่อหุ้มมากๆคล้ายผ้านวม โดย Sleep foundation ได้สรุปหัวข้อของผู้ที่เหมาะกับผ้าห่มถ่วงน้ำหนักไว้เพิ่มเติมดังนี้

จากการจัดทำแบบสอบถามของซูเปอร์โพลเกี่ยวกับปัญหานอนไม่หลับของคนไทยกว่า 1,109 ตัวอย่าง พบว่ากว่า 60.1 % ต้องใช้เวลานานกว่าจะนอนหลับได้ สาเหตุส่วนใหญ่นั้นเกิดมาจากความเครียด ความวิตกกังวล และ อาการซึมเศร้า ซึ่งภาวะเหล่านี้มักส่งผลกระทบต่อการนอนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักจะช่วยให้ระบบในร่างกายของคุณที่ตอบสนองต่อความวิตกกังวลได้หยุดพักและทำให้ร่างกายรู้สึกสงบปลอดภัยมากขึ้นจากการที่ผ้าห่มช่วยกระตุ้นระบบ parasympathetic เป็นผลให้การนอนหลับเป็นไปได้อย่างดียิ่งขึ้น

เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นมักจะไม่ชอบการอยู่นิ่งๆ ต้องการความสนใจอยู่ตลอดเวลา และในบางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ส่งผลต่อการเรียนและเป็นปัญหาด้านความสัมพันธ์ของเพื่อนและครอบครัว

เพื่อแก้ปัญหาให้เด็กสามารถโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้มากขึ้น ช่วงนอนหลับผู้ปกครองสามารถใช้ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักในการพัฒนาด้านประสาทสัมผัสของพวกเขา ไม่ให้ถูกรบกวนจากสิ่งภายนอกได้ง่าย เฉกเช่นเดียวกับเสื้อกั๊กถ่วงน้ำหนัก ( Weighted vest ) ที่เป็นเครื่องมือในลักษณะเดียวกันสำหรับช่วยเหลือในระหว่างวัน

ผู้ที่มีภาวะออทิสติก มักจะถูกรบกวนได้ง่ายจากการสัมผัสหรือเสียงต่างๆ ทำให้พวกเขารู้สึกกังวลและเครียด ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักจะช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด สบายตัวจากการถูกกระตุ้นจากสิ่งรอบข้างน้อยลง และสามารถโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานขึ้น

05

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักใช้ได้ผลจริงไหม ?

มีงานวิจัยมากมายที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับผ้าห่มถ่วงน้ำหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยด้านล่างนี้คือตัวอย่างของงานวิจัยล่าสุดบางส่วนที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับผ้าห่มถ่วงน้ำหนักโดยตรง และพบว่ามีส่วนช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้นจริง

• งานวิจัยจาก American Academy of Sleep Medicine ในเดือนกันยายนปี 2020|

จากงานวิจัยดังกล่าวได้ค้นพบว่าการทดสอบเปรียบเทียบระหว่างการทำงานของผ้าห่มถ่วงน้ำหนักกับผ้าห่มน้ำหนักเบาเป็นเวลา 4 สัปดาห์ อัตราการนอนไม่หลับได้ผลดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการใช้ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก โดยช่วยปรับปรุงการนอนหลับให้ดีขึ้น สามารถทำกิจกรรมในระหว่างวันได้มากขึ้น และมีอาการซึมเศร้า กังวล หรือเหนื่อยล้าลดลง และหลังจากการทำวิจัยเป็นเวลา 1 ปี ผู้วิจัยได้สอบถามผู้เข้าร่วมทดลองอีกครั้งและพบว่า พวกเขาเลือกที่จะใช้งานผ้าห่มถ่วงน้ำหนักต่อ ในขณะที่ผู้เข้าร่วมทดลองที่ใช้ผ้าห่มบางมีอัตราการนอนไม่หลับเหมือนกับช่วงก่อนทำการทดลอง

• งานวิจัยจาก Sleep Research Society ในเดือนพฤษภาคม 2020

จากข้อมูลการนอนหลับของผู้เข้าร่วมการทดสอบ 28 รายพบว่ามีอัตราการตื่นในช่วงเวลาการนอนหลับที่ดีขึ้น 7% มีอัตราการหลับตื้นที่ลดลง 2% และมีประสิทธิภาพในการนอนหลับที่ดีขึ้น 1.5% รู้สึกว่านอนหลับสนิทได้เร็วขึ้น 13% รู้สึกว่าพักผ่อนอย่างเพียงพอหลังตื่นดีขึ้น 17% และหลับสนิทมากขึ้นถึง 36% improvement นอกจากนั้นแล้ว ยังรู้สึกเครียดน้อยลงเมื่อถึงเวลานอน 13% และยังรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อนอนหลับ 17%

• งานวิจัยจาก Scandinavian Journal of Occupational Therapy ในเดือนมิถุนายน 2021

จากงานวิจัยดังกล่าวพบว่าผ้าห่มถ่วงน้ำหนักมีผลในเชิงบวกต่อการนอนหลับ ทำให้นอนหลับตลอดทั้งคืน และยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในระหว่างวันด้วย ทำกิจวัตรประจำวันทั้งในช่วงเช้าและเย็นได้มากขึ้นด้วย ทำให้ถูกเลือกนำไปใช้เป็นเครื่องมือบำบัดสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder, ADHD) และโรคออทิสติก (Autistic Spectrum Disorder, ASD)

• งานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก Halmstad University

งานวิจัยชิ้นนี้ได้ศึกษาเกี่ยวกับการใช้งานผ้าห่มถ่วงน้ำหนักในบ้านพักคนชรา ได้ผลลัพธ์ออกมาว่าผลลัพธ์จากการใช้ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้งานในเชิงบวกเกี่ยวกับการนอนหลับ กิจกรรมทางกาย รวมไปถึงพฤติกรรมทางจิตใจด้วย โดยผู้ที่ใช้งานสามารถนอนหลับได้เร็วขึ้น รู้สึกได้ว่านอนหลับสนิทหลังจากตื่นนอน และพยาบาลที่ดูแลยังสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่าผู้ใช้งานมีพลังในการร่วมทำกิจกรรมมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยลดความกังวลต่าง ๆ อีกด้วย

อ่านงานวิจัยต่างๆเพิ่มเติมได้ที่นี่

06

วิธีการเลือกน้ำหนักให้เหมาะสมกับตนเอง

การเลือกน้ำหนักที่เหมาะสมของผ้าห่มถ่วงน้ำหนักเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลต่อความรู้สึกของการใช้งานโดยตรง การเลือกน้ำหนักที่มากเกินไปอาจจะทำให้เรารู้สึกอึดอัด หรือ หากเลือกน้ำหนักที่เบาเกินไปผลลัพธ์ของผ้าห่มถ่วงน้ำหนักก็อาจแสดงออกมาได้ไม่เต็มที่

ซึ่งน้ำหนักของผ้าห่มถ่วงน้ำหนักที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำจะอยู่ระหว่าง 8-12% ของน้ำหนักผู้ใช้งาน และอาจแปรผันไปได้ตามความชอบส่วนบุคคล

ด้านล่างนี้เป็นตารางสรุปน้ำหนักที่เราได้รวบรวมเอาไว้ โดยอ้างอิงจากประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้คนไทย

Gender	Body Weight	WB Weight
หญิง	น้อยกว่า 54 Kg	4.5 / 5.4 Kg
หญิง	มากกว่า 54 Kg	5.4 Kg
ชาย	น้อยกว่า 64 Kg	5.4 Kg
ชาย	64-75 Kg	5.4 / 6 .8 Kg
ชาย	มากกว่า 75 kg	6.8 Kg

07

ข้อควรระวังในการใช้งานผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก

ไม่ควรใช้ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักสำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี เพราะอาจสร้างความอึดอัดที่มากจนเกินไปสำหรับเด็กเล็ก
ไม่ควรใช้ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติหยุดหายใจขนาดหลับ(Obstructive Sleep Apnea) หรือกลัวที่แคบ
ในกรณีที่ผู้ใช้งานเป็นผู้สูงอายุมากๆหรือมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ควรเลือกน้ำหนักให้ต่ำลง 1-2 ระดับ

ถึงแม้ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักเองจะมีผลการวิจัยที่ดีต่างๆรองรับมากมาย แต่การพึ่งพาผ้าห่มถ่วงน้ำหนักเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่วิธีที่ได้ผลเสมอไป

เพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับหรือวิตกกังวลนั้นมีมากมายหลายอย่าง การดูแลรักษาสุขภาพร่างกายไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีสุขภาพ และการหลีกเลี่ยงสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

แต่หากคุณลองมาหลายวิธีแล้วยังไม่ได้ผล ข้อ 7. เราจะพาไปดูวิธีการเลือกซื้อผ้าห่มถ่วงน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพการสูงสุดกัน

08

วิธีการเลือกซื้อผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก

ในปัจจุบันมีแบรนด์ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักมากมายในประเทศไทย โดยผ้าห่มถ่วงน้ำหนักมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลัก 1,000 ไปจนถึงหลัก 10,000 บาท ซึ่งถึงแม้ว่าหน้าตาจะคล้ายๆกันแต่ความรู้สึกของการห่อหุ้มอาจแตกต่างกันได้พอสมควร โดยราคาเหล่านี้จะแปรผันไปตามคุณภาพของเนื้อผ้า การกระจายน้ำหนัก และการตัดเย็บ

คำแนะนำที่ดีที่สุดของเรา คือการเลือกเนื้อผ้าที่มีสัมผัสที่เราชื่นชอบ และเลือกซื้อผ้าห่มถ่วงน้ำหนักจากแบรนด์ที่มี นโยบายในการเปลี่ยนน้ำหนัก

เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การนอนที่ดีที่สุด เพราะน้ำหนักที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อคุณภาพของการนอน

แต่หากเพื่อนๆมีโอกาสได้ศึกษาผ้าห่มถ่วงน้ำหนักจากหลากหลายแบรนด์แล้ว ยังไม่เจอผ้าห่มถ่วงน้ำหนักที่ถูกใจ อย่าลืมแวะเข้ามาหา HUGGIN ได้เสมอ เพราะเรามีรุ่นน้ำหนักให้คุณเลือกมากถึง 3 น้ำหนัก

Choose your weight

เลือกน้ำหนักที่ใช่สำหรับคุณ

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก Weighted blanket สีขาว cloud white

The little hug

4.5 kg

เหมาะสำหรับผู้มีรูปร่างเล็ก

Let’s see

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก Weighted blanket สีเทาอ่อน light grey

The every one hug

5.4 kg

เหมาะสำหรับผู้มีรูปร่างทั่วไป

Let’s see

ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก Weighted blanket สีเทาเข้ม Grey

The big hug

6.8 kg

เหมาะสำหรับผู้มีมวลกล้ามเนื้อ หรือรูปร่างใหญ่

Let’see

สรุป

ทีนี้เราก็ได้ทำความรู้จักกับผ้าห่มถ่วงน้ำหนักกันมากขึ้นแล้ว นอกจากจะให้ความอบอุ่นเหมือนได้รับอ้อมกอดตลอดคืน ก็ยังช่วยลดอาการวิตกกังวลและเครียด ที่ใช้ในทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นและออทิสติก รวมทั้งใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับผู้ที่มักมีความวิตกกังวลที่ทำให้นอนไม่หลับได้อีกด้วย

หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถแวะเข้ามาทักทายหรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา